สถานการณ์ปัญหา(Problem-based learning)
ครูพลกิต เป็นครูที่พึ่งมาบรรจุใหม่หลังจากที่รายการตัวต่อสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประจำจังหวัดที่สังกัดแล้วก็ไปรายงานตัวต่อโรงเรียนซึ่งเป็นโรงเรียนประจำจังหวัด ผู้อำนวยการโรงเรียนมอบหมายให้ครูพลกิตสอนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 และเป็นห้องเด็กเก่งด้วย ยิ่งทำให้ครูพลกิตรู้สึกไม่มั่นใจในการสอนว่าตนเองจะสามารถทำได้ดีหรือไม่และนักเรียนจะสนุกหรือสนใจในวิธีการสอนของตนเองหรือไม่ ที่สำคัญคือนักเรียนห้องนี้มีลักษณะที่ชอบค้นคว้า หาความรู้ กิจกรรมที่เน้นให้ปฏิบัติได้ลงมือกระทำ ฝึกคิดหรือที่ท้าทายการทำงานนักเรียนจะชอบมาก
อีกทั้งยังเรียนพิเศษแบบเข้มข้นเนื้อหาในหนังสือเรียนส่วนใหญ่นักเรียนจะรู้และทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งมาก่อนแล้ว แต่ที่สังเกตได้ชัดคือนักเรียนจะแข่งกันเรียน ทำงานกลุ่มไม่ค่อยประสบความสาเร็จเท่าที่ควร ซึ่งผู้อำนวยการโรงเรียนฝากความหวังไว้ที่ครูพลกิตเพื่อช่วยพัฒนาและแก้ปัญหาการเรียนรู้ของนักเรียนในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ห้องนี้ให้ได้
ภารกิจ
1. ครูพลกิตจะมีหลักในการเตรียมความพร้อมเพื่อให้สามารถจัดการเรียนรู้ให้มีประสิทธิภาพได้อย่างไร
ครูพลกิต เป็นครูที่พึ่งมาบรรจุใหม่หลังจากที่รายการตัวต่อสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประจำจังหวัดที่สังกัดแล้วก็ไปรายงานตัวต่อโรงเรียนซึ่งเป็นโรงเรียนประจำจังหวัด ผู้อำนวยการโรงเรียนมอบหมายให้ครูพลกิตสอนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 และเป็นห้องเด็กเก่งด้วย ยิ่งทำให้ครูพลกิตรู้สึกไม่มั่นใจในการสอนว่าตนเองจะสามารถทำได้ดีหรือไม่และนักเรียนจะสนุกหรือสนใจในวิธีการสอนของตนเองหรือไม่ ที่สำคัญคือนักเรียนห้องนี้มีลักษณะที่ชอบค้นคว้า หาความรู้ กิจกรรมที่เน้นให้ปฏิบัติได้ลงมือกระทำ ฝึกคิดหรือที่ท้าทายการทำงานนักเรียนจะชอบมาก
อีกทั้งยังเรียนพิเศษแบบเข้มข้นเนื้อหาในหนังสือเรียนส่วนใหญ่นักเรียนจะรู้และทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งมาก่อนแล้ว แต่ที่สังเกตได้ชัดคือนักเรียนจะแข่งกันเรียน ทำงานกลุ่มไม่ค่อยประสบความสาเร็จเท่าที่ควร ซึ่งผู้อำนวยการโรงเรียนฝากความหวังไว้ที่ครูพลกิตเพื่อช่วยพัฒนาและแก้ปัญหาการเรียนรู้ของนักเรียนในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ห้องนี้ให้ได้
ภารกิจ
1. ครูพลกิตจะมีหลักในการเตรียมความพร้อมเพื่อให้สามารถจัดการเรียนรู้ให้มีประสิทธิภาพได้อย่างไร
2. ให้วิเคราะห์ว่าจะเลือกใช้สื่อหรือวิธีการจัดการเรียนรู้แบบใดจึงจะสอดคล้องกับลักษณะการเรียนรู้ของผู้เรียนตามสถานการณ์ที่กำหนดให้
สรุปภารกิจการเรียนรู้
1. ครูพลกิตจะมีหลักในการเตรียมความพร้อมเพื่อให้สามารถจัดการเรียนรู้ให้มีประสิทธิภาพได้อย่างไร
ครูพลกิตควรใช้หลักในการเตรียมความพร้อมดังนี้
การเตรียมสื่อการเรียนรู้ การเตรียมความพร้อมของสื่อจะเริ่มตั้งแต่การคัดเลือกสื่อที่ตอบสนองวิธีการเรียนรู้ การพัฒนาหรือปรับปรุงสื่อเพื่อให้สามารถใช้งานได้ การออกแบบและพัฒนาสื่อการเรียนรู้ขึ้นมาใหม่ที่มีความสอดคล้องกับการเสาะแสวงหาความรู้และเป้าหมายของรายวิชา

สรุปภารกิจการเรียนรู้
1. ครูพลกิตจะมีหลักในการเตรียมความพร้อมเพื่อให้สามารถจัดการเรียนรู้ให้มีประสิทธิภาพได้อย่างไร
ครูพลกิตควรใช้หลักในการเตรียมความพร้อมดังนี้
การเตรียมสื่อการเรียนรู้ การเตรียมความพร้อมของสื่อจะเริ่มตั้งแต่การคัดเลือกสื่อที่ตอบสนองวิธีการเรียนรู้ การพัฒนาหรือปรับปรุงสื่อเพื่อให้สามารถใช้งานได้ การออกแบบและพัฒนาสื่อการเรียนรู้ขึ้นมาใหม่ที่มีความสอดคล้องกับการเสาะแสวงหาความรู้และเป้าหมายของรายวิชา
การใช้สื่อนั้นผู้สอนอาจแบ่งออกเป็น 3 ช่วง คือ
1) ก่อนการจัดการเรียนรู้
- ผู้สอนและผู้เรียนควรมีการศึกษาวิธีการใช้งานสื่อ
- ตรวจสอบความพร้อมของสื่อว่าสามารถใช้งานได้จริง
- เก็บสื่อและวัสดุการเรียนให้สะดวกต่อการใช้งาน
- ตรวจสอบสื่อต่างๆว่าสามารถแสดงผลได้ตามที่ต้องการหรือไม่
2) ระหว่างการจัดการเรียนรู้
- มีการเน้นสาระสำคัญ ความคิดยอดด้วยการเขียนบนกระดานหรือเน้นลงในสื่อ
3) หลังการจัดการเรียนรู้
- ปฏิบัติตามที่กำหนดในบทเรียนด้วยการอภิปราย การทำโครงงานหรือกิจกรรมอื่นๆที่ให้ผู้เรียนได้นำความรู้ไปใช้
การเตรียมสิ่งแวดล้อมทางการเรียนรู้
ครูพลกิตควรเตรียมความพร้อมของห้องเรียนในน่าเรียน เอื้อต่อการจัดกิจกรรมกลุ่มหรือกิจกรรมการเรียนรู้อื่นๆ
- ใช้ห้องปฏิบัติการ วิทยาศาสตร์และภาษา
- เตรียมอุปกรณ์สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ดังเช่น แสงไฟ เครื่องเสียง ปลั๊กไฟ หรืออุปกรณ์ทดลองเฉพาะ เป็นต้น
การเตรียมผู้เรียน
- การให้มโนมิติทางการเรียน(Advance organizer) ล่วงหน้าก่อนเรียน
- การให้สารสนเทศที่สำคัญก่อน เพื่อส่งเสริมทักษะ ความรู้และทัศนคติที่ดีต่อการเรียน
- การนำเสนอให้ผู้เรียนทราบถึงสาระสำคัญของการสอน
- การจัดกิจกรรมที่กระตุ้นให้ผู้เรียนสามารถสร้างความเกี่ยวข้องกับบทเรียนกับประสบการณ์เดิมและหัวข้อหรือเนื้อหาที่จะเรียนรู้ในอนาคต
การดำเนินการตามบทเรียน
1.การให้กิจกรรมการเรียนรู้ที่ชัดเจน ผู้สอนควรอธิบายภารกิจการเรียนรู้ +ตรวจสอบความเข้าใจของผู้เรียนเกี่ยวกับขั้นตอนในการปฏิบัติกิจกรรม
2. การกำหนดขั้นตอนในการเรียนรู้ วางขั้นตอนของกิจกรรมให้ง่าย+ขับเคลื่อนกิจกรรม
3. การสร้างแรงจูงใจในการเรียน ผู้สอนสนับสนุนให้ผู้เรียนมีความตระหนักและตื่นตัวในการเรียน
4. การตั้งคำถามในระหว่างเรียน
- ผู้สอนและผู้เรียนควรมีการศึกษาวิธีการใช้งานสื่อ
- ตรวจสอบความพร้อมของสื่อว่าสามารถใช้งานได้จริง
- เก็บสื่อและวัสดุการเรียนให้สะดวกต่อการใช้งาน
- ตรวจสอบสื่อต่างๆว่าสามารถแสดงผลได้ตามที่ต้องการหรือไม่
2) ระหว่างการจัดการเรียนรู้
- มีการเน้นสาระสำคัญ ความคิดยอดด้วยการเขียนบนกระดานหรือเน้นลงในสื่อ
3) หลังการจัดการเรียนรู้
- ปฏิบัติตามที่กำหนดในบทเรียนด้วยการอภิปราย การทำโครงงานหรือกิจกรรมอื่นๆที่ให้ผู้เรียนได้นำความรู้ไปใช้
การเตรียมสิ่งแวดล้อมทางการเรียนรู้
ครูพลกิตควรเตรียมความพร้อมของห้องเรียนในน่าเรียน เอื้อต่อการจัดกิจกรรมกลุ่มหรือกิจกรรมการเรียนรู้อื่นๆ
- ใช้ห้องปฏิบัติการ วิทยาศาสตร์และภาษา
- เตรียมอุปกรณ์สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ดังเช่น แสงไฟ เครื่องเสียง ปลั๊กไฟ หรืออุปกรณ์ทดลองเฉพาะ เป็นต้น
การเตรียมผู้เรียน
- การให้มโนมิติทางการเรียน(Advance organizer) ล่วงหน้าก่อนเรียน
- การให้สารสนเทศที่สำคัญก่อน เพื่อส่งเสริมทักษะ ความรู้และทัศนคติที่ดีต่อการเรียน
- การนำเสนอให้ผู้เรียนทราบถึงสาระสำคัญของการสอน
- การจัดกิจกรรมที่กระตุ้นให้ผู้เรียนสามารถสร้างความเกี่ยวข้องกับบทเรียนกับประสบการณ์เดิมและหัวข้อหรือเนื้อหาที่จะเรียนรู้ในอนาคต
การดำเนินการตามบทเรียน
1.การให้กิจกรรมการเรียนรู้ที่ชัดเจน ผู้สอนควรอธิบายภารกิจการเรียนรู้ +ตรวจสอบความเข้าใจของผู้เรียนเกี่ยวกับขั้นตอนในการปฏิบัติกิจกรรม
2. การกำหนดขั้นตอนในการเรียนรู้ วางขั้นตอนของกิจกรรมให้ง่าย+ขับเคลื่อนกิจกรรม
3. การสร้างแรงจูงใจในการเรียน ผู้สอนสนับสนุนให้ผู้เรียนมีความตระหนักและตื่นตัวในการเรียน
4. การตั้งคำถามในระหว่างเรียน
2. ให้วิเคราะห์ว่าจะเลือกใช้สื่อหรือวิธีการจัดการเรียนรู้แบบใดจึงจะสอดคล้องกับลักษณะการเรียนรู้ของผู้เรียนตามสถานการณ์ที่กำหนดให้
การใช้สื่อวีดิทัศน์
- สามารถแสดงให้ผู้เรียนได้สัมผัสถึงความเหมือนจริง
- บริบทต่างๆของเนื้อหา ทั้งรูปแบบ สีสันที่สร้างแรงจูงใจ
การเรียนรู้แบบสร้างองค์ความรู้
- การเชื่อมโยงความรู้เดิมกับความรู้ใหม่
- การกระตุ้นให้เกิดความสงสัยและท้าทายการเรียนรู้
- การส่งเสริมการเรียนรู้ผ่านการสร้างประสบการณ์ที่หลากหลาย
- การส่งเสริมการมีปฏิสัมพันธ์เชิงสังคม
- การส่งเสริมการสร้างความเข้าใจของตนเองและกลุ่มโดยการสะท้อนความคิดและสรุปองค์ความรู้
การใช้สื่อวีดิทัศน์ + การเรียนรู้แบบสร้างองค์ความรู้
เนื่องจากเป็นห้องเด็กเก่ง ทำให้ผู้เรียนเกิดการการเชื่อมโยงความรู้เดิมกับความรู้ใหม่ได้ด้วยตนเองอย่างมีปะสิทธิภาพ และที่สำคัญคือนักเรียนห้องนี้มีลักษณะที่ชอบค้นคว้า หาความรู้ กิจกรรมที่เน้นให้ปฏิบัติได้ลงมือกระทำฝึกคิดหรือที่ท้ายทายการทำงานนักเรียนจะชอบมาก ซึ่งการเรียนรู้แบบสร้างองค์ความรู้ จะช่วยกระตุ้นให้เกิดความสงสัยและท้าทายการเรียนรู้และส่งเสริมให้เกิดการสร้างประสบการณ์ที่หลากหลาย นอกจากนี้การเรียนรู้แบบสร้างองค์ความรู้ยังส่งเสริมการมีปฏิสัมพันธ์เชิงสังคม และส่งเสริมการสร้างความเข้าใจของตนเองและกลุ่มโดยการสะท้อนความคิดและสรุปองค์ความรู้ ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาในเรื่องนักเรียนจะแข่งกันเรียน ทำงานกลุ่มไม่ค่อยประสบความสำเร็จ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น